STIMULUS-ZMOT-FMOT-SMOT

     ในยุคปัจจุบัน ต้องบอกว่าเกือบทุกคนใช้ Social Media กันหมดแล้ว ไม่มีใครไม่ใช้ facebook หรือว่า Instagram หรืออย่างน้อยก็ต้องดู VDO Youtube กันบ้างหละ หรือการค้นหาข้อมูลจาก Google ดังนั้นในปัจจุบันนี้ ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้อย่างง่ายดาย ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่เป็นโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าด้วย


     ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า การจะนำโฆษณาสินค้าไปให้ถึงผู้บริโภคนั้น ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ?...
จะบอกว่าอย่างนั้นก็ไม่ผิด แต่จริงๆแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าใดนัก เพราะข้อมูลต่างๆที่มีให้ค้นหานั้น มากมายมหาศาล และผู้บริโภคก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกเสพข้อมูลอย่างอิสระ สามารถเลือกที่จะดูหรือไม่ดูได้ สามารถเลือกที่จะอ่านหรือไม่อ่านได้ เพราะฉะนั้นการที่จะะทำสื่อโฆษณาเพื่อให้ผู้บริโภคสนใจ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ในการทำ Zero Marketing หรือ Zero paid media นี้

เพื่อให้เห็นภาพชัดๆ เราลองมาเปรียบเทียบถึงพฤติกรรมผู้บริโภคใน 2 ยุคกันสักนิดก่อนครับ

1.  การตลาดก่อนยุคดิจิตอล

 แต่ก่อนที่จะมาถึงยุคคิจิตอล ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าสักอย่างหนึ่ง จะได้แรงบันดาลใจมาจากไหนกัน ? ส่วนใหญ่ก็ได้จากการเห็ฯโฆษณาทางทีวี หรือทางสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆเช่น หนังสือพิมพ์,นิตยสารต่างๆ หรือที่เรียกว่า Traditional Advertising ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก และอีกอย่างหนึ่งที่ไม่มีค่าใช้จ่ายคือการตลาดแบบปากต่อปาก คือมีการพูดถึงสินค้าที่มีคุณภาพดี ใช้แล้วได้ผลดีเลยมีการบอกต่อๆกันไป  หลังจากที่ได้รับแรงบันดาลใจแล้ว การจะตัดสินใจซื้อสินค้านั้นๆ จุดสำคัญอยู่ที่ FMOT หรือ First Moment of Truth คือการตัดสินใจซื้อ ณ.จุดขาย ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้า บริษัทเจ้าของสินค้าจะพัฒนาตรงจุดนั้นให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น การหีบห่อ ,พนักงานขาย ,โปรโมชั่นหรือกิจกรรมทางการตลาดทั้งหลายแหล่ และเมื่อผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าแล้ว ก็จะมาถึง SMOT หรือ Second Moment of Truth ซึ่งก็คือความชอบหรือไม่ชอบสินค้าจากการใช้สินค้าแล้ว ซึ่งถ้าใช้แล้วดีก็จะนำไปสู่การบอกต่อนั่นเอง ในยุคแรกนี้ จะเห็นว่ายังไม่มี FMOT เพราะว่ายุคนี้นั้นการเข้าถึงข้อมูลต่างๆไม่ง่ายดายเหมือนในยุคนี้

2. การตลาดในยุคดิจิตอล

อย่างที่บอกว่า ยุคนี้การเข้าถึงข้อมูลต่างๆง่ายดายมาก รวมถึงการเข้าถึงโฆษณา หรือการบอกต่อๆกันไปทาง Social Media ที่เรียกว่า Viral นั่นทำให้การสร้างแรงบันดาลใจที่จะต้องการใช้สินค้าทำได้ง่ายขึ้นและขยายไปในวงกว้างขึ้น และจากการเข้าถึงข้อมูลที่ง่ายขึ้นนั่นเองที่ทำให้เกิด ZMOT หรือ Zero Moment of Truth ซึ่งก็คือการหาประสบการณ์การใช้สินค้าก่อนจะตัดสินใจซื้อ และทำให้ FMOT ลดความสำคัญลงไปในยุคดิจิตอลนี้ เพราะผู้บริโภคจะหันมาซื้อทางออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ 

       จากพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิตอลนี้ จะเห็นว่าคนเราต้องการจะทำอะไร หรือต้องการสินค้าอะไร ส่วนใหญ่ก็จะค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆทางอินเตอร์เน็ตก่อน แล้วก็จะไปเจอบทความต่างๆที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นบทความที่เป็นโฆษณา บทความที่เป็นรีวิวสินค้า บทความที่เป็นการแสดงความคิดเห็นในเว็บบอร์ด หรือเจอเนื้อหาที่เป็น VDO ใน youtube หรือที่เป็นรูปภาพ และไม่ว่าจะเป็นข้อมูลแบบไหน จากที่ไหนก็ตาม นั่นเป็นข้อมูลที่ผู้บริโภคจะนำมาใช้เป็นข้อพิจารณาในการตัดสินใจซื้อทั้งสิ้น ทั้งข้อมูลในด้านบวกและด้านลบ

    นี่เองคือที่มาของ Digital Marketing จนถึง Zero Marketing สำหรับเจ้าของสินค้าหรือบริการใดๆ ที่ต้องการทำการตลาดออนไลน์ ต้องการสร้างแรงบันดาลใจต่อการใช้สินค้า และต้องการสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคก่อนจะใช้สินค้าจริงๆ แบบไม่ต้องเสียเงินในการโฆษณากับสื่อใดๆ ที่เรียกว่า Zero paid media ที่มีอยู่เช่น Social Media ต่างๆ ( facebook ,Instagram , Youtube , Blog , .....) 

    แต่การจะทำ Zero Paid Media ให้ได้ผลนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าใดนัก จำเป็นต้องมีการวางแผน ต้องมีการวิเคราะห์ ต้องมีกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ ต้องมีขั้นตอนที่แยบยล จึงจะประสบความสำเร็จได้

     ดังนั้นที่ว่าเป็น Zero Marketing หรือการทำการตลาดแบบไม่ต้องลงทุนนั้น จริงๆก็ทำได้ แต่ถ้าจะทำให้ประสบความสำเร็จนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควร หรือบางครั้งมันก็จำเป็นที่อาจจะต้องจ้างนักการตลาดที่มีความรู้หรืออาจต้องลงทุนจ้าง Outsource มาช่วย แต่อย่างไรก็ตามผมคิดว่าอย่างไรก็ยังใช้งบประมาณน้อยกว่าที่จะไปลงโฆษณาในแบบเดิมๆ และได้ผลมากกว่าอีกด้วย ...


https://www.facebook.com/Content2Marketing
http://www.Content2marketing.com/
#Content2Marketing










0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

https://www.facebook.com/Content2Marketing

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

Ple_Chokchai Follow me on Twitter!